วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อมพาย (2)

(1) ทางสู่อมพาย
ขยับขยายและลาดเทความสะดวกมากยิ่งขึ้น
หิมะแดงยามแล้งคราวก่อน เคยฟุ้งตลบไล่หลังรถกระหล่ำ
วันนี้ กาลเวลาได้เขมือบกินพวกเขา จนเกือบหมดสิ้นแล้ว
ทางตลอดสาย จึงกลายสี จากแดงเป็นดำ
แต่ทางก็ยังทำหน้าที่ ทาง ดังเดิม
............................................

(2) รถไต่ดอยวกวน คลอเคลียทิวสน บ้านแม่โถ
เหล่าผู้เฒ่าชาวม้ง พร้อมเด็กน้อย
จับเจ่าหลากหลายอริยาบถ
บ้างนั่งปักผ้า .....
บ้างปั่นด้าย ต่ำหูก.....
บ้างผ่าฟืน สับหลัว
บ้างเหยียดขา ทอดอารมณ์
บ้างอุ้มหลาน ป้อนข้าวน้ำ
ฝอยฝนจับขนคิ้วฉ่ำชุ่ม
พวกเขา อาบหมอกต่างน้ำ
...............................................
(3) อากาศที่นี่ เย็นสบาย
ชีวิตผู้คนเนิบช้า
ดูเมฆใหญ่ก้อนนั้นประไร
นานเท่าใด กว่าจะเลื่อนแลสลาย ข้ามดอยลูกโน้นได้
ลมฝนเย็นเยือกพรมฝอย ลอยห่ม มอร์สเฟิร์น
ตามไม้แลคาบ้าน เขียวครึ้ม คล้ายพรมและหนวดเครา
อากาศเยี่ยงนี้ พัดลมแอร์  หาจำเป็นไม่
แม่เฒ่าจึงดูหลาน แม่บ้านจึงต่ำหูก
หาฟืน เพื่อหุงหา ต้มเหล้าและอุ่นอิง
แม้วันนี้ .....
ฝูงหมอกอาจจางตาบ้าง แต่ความยะเยือกยังคงอยู่
ดูสิ ขนคิ้วหัวใจข้า ฉ่ำทาด้วย ฝนเม็ดงาม...เหล่านั้น
.......................................................

(4) ระหว่างทาง บ้านเคาะท่า
ก่อนโน้น
ข้ากับเพื่อนครู นำเด็กน้อย หาเก็บหน่อไม้ไปหมักดอง
ได้หลายสิบไห
กินหน่อเป็นแรมปี
เด็กๆ บอกว่า ผาโน้นมีถ้ำ มีขี้ค้างคาวด้วย
ดูไกลเกินตา เพราะไม้ใหญ่บังหู กอไผ่ยิ่งบังตา
เดินไม่ถึงดอก....
มันไกลเกิน....

วันนี้
ป่าไผ่ถูกแผ้วถาง ไม้เล็กใหญ่ ริมทางถูกตัดโค่น และหายไป
หายไปกับกะหล่ำ มะเขือเทศ ผักกาดขาว ในตลาดไทและห้างเมือง
หายไปกับ ไทเกอร์ วีโก้ ไมตี้....
ข้าพบว่า
ผาที่เด็กน้อยเคยบอกว่ามีถ้ำ
แท้ตั้งห่างไม่ถึงยี่สิบเมตร
มองเห็นทางเดินโล่งแจ้ง  หามีไม้แซมสักต้นไม่
แม้ใกล้เพียงคว้า และหามีอะไรบดบังหูตาอย่างเคย
ข้าก็ไร้เหตุและแรงจูงใจที่จะเดินไป
เดินคงเดินไม่ถึงดอก....
มันไกลเกิน .....








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น