......แต้ แว้ด แครก แครก
.....แต้ แว้ด แครก แครก
......เจ้าปรอดก้นแดง ตัวเขื่อง ใช้ขาข้างหนึ่งเกาะพุ่มพริกริมรั้วข้างบ้าน โหนหัวและหย่อนตัวลงโคลนต้น
ตาแส่ส่ายไปมา เหมือนมองหาอะไรสักอย่าง เอียงหัว เอียงคอ ละม้ายครุ่นคำนึงอะไรสักเรื่อง
ปากก็ร้องเพลง...
...แต้ แว้ด แครก แครก
....แต้ แว้ด แครก แครก
....มิได้ขาด เป็นอยู่อย่างนี้ หลายสิบนาที นับเป็นภาพหนึ่ง ที่ กันเอง และใกล้ชิด ที่สุด ใกล้ชิดจนรับรู้ถึง ความไว้วางใจ ระหว่าง เรา ขึ้นอีกวัน...
.......ประมาณ สองพรรษาเห็นจะได้ ที่ปรอดเข้ามาอาศัย ชายคาบ้าน เป็นรังนอน (เฉพาะในวันครึ้มฟ้าหรือฝนตก) เพราะโดยปกติ หากฟ้าแจ่ม หรือปลอดฝน มันจะนอนบนต้นลำไย มิปรากฎกายและเสียงในระยะกระชั้น เช่นนี้ ให้เห็นหรือยินนัก
.......ปีที่แล้ว มีสมาชิกเพียงสามตัว ตกมาปีนี้ มี หก ไม่แน่ใจว่า เป็นลูกหรือพ้องเพื่อน ที่เพิ่มขึ้น เวลานอน จะงอยคอน เรียงตัวชิดติดกัน พร้อมสลับหัวหาง เป็นยามระวังภัย หน้าหลังแก่กัน ด้วยขนที่ปุกปุย กอปรกับกายชิดติดกัน ทำให้ ยามนอน ปรอด ทุกตัว ได้รับไออุ่นจากกันและกัน อย่างสม่ำเสมอ ในทิวาอันยาวนาน จึงทอห่มฝัน ท่ามราตรีฝน อันอ่อนโยน หลับสนิทใจ ใต้คา ที่อุ่นเอม.....
........เช้าวันอาสาฬบูชาปีนี้ ก่อนที่จะพาลูกสาวไปวัด ปรอด ก้นแดง สองในหกตัว ก็บินมาจับริมรั้ว แล้วส่งเสียง แต้ แว้ด แครก แครก ทักทายกัน .....
นางฟ้าตัวน้อย กระซิบถามเบาๆ ระคนใคร่รู้ ของเดียงสาวัยว่า
"นกพูดอะไรกันพ่อ"
"พวกมันคงชวนกันไปทำบุญที่วัด เพราะวันนี้ เป็นศีลใหญ่ อาสาฬหบูชา"
"พรุ่งนี้ ก็จะเข้าพรรษาแล้ว ....ตลอดเข้าพรรษาเนี่ย ปรอด จะเป็นนกที่ดี เชื่อฟังพ่อแม่ ตื่นนอนแต่เช้า ล้างหน้าแปรงฟัน และบินไปหาอยู่หากิน เป็นเด็กดี ใครเป็นเด็กดี ก็จะได้พบสวรรค์ นะลูก "
เธอเอื้อนแย้ง พร้อมแจงว่า
"มันจะไปบอกเพื่อนๆ ให้เลิกเหล้า ต่างหากละพ่อ เพราะเข้าพรรษาแล้ว "
"แล้วพ่ออยากไปสวรรค์ไหม? "
"ถ้าอยากไปเนี่ยนะ ต้องเลิกเหล้า และรักษาศีล"
"ศีลจะทำให้ได้ไปสวรรค์นะพ่อนะ"
......เสียง แต้ แว้ด แครก แครก ของเจ้าปรอดก้นแดง ได้จางเสียงพร้อมลับหายในม่านฟ้าไปนานแล้ว แต่เสียงธรรมของนางฟ้าตัวน้อย ที่พร่ำสอนย้อนเอ่ย กระตุกกระตุ้นเตือน ผู้เป็นพ่อของเขา ยังกังวานในมโนสำนึก มิสร่างเบา.....
"เข้าพรรษาแล้ว ให้เลิกเหล้า เข้าพรรษา ....รักษาศีลนะ ....จะได้ไปสวรรค์"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น