วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

ตัดเท้าให้เข้ากับเกือก

ขอบคุณภาพประกอบ
จากเฟสบุ๊ค สำนักข่าวเด็กและเยาวชน
สถานี RTV1
........สามสี่วันที่ผ่านมา มีข่าวพาดหัวตามสื่อต่างๆ ถึงการจัดลำดับคุณภาพทางการศึกษาไทย ว่ารั้งท้ายเพื่อนบ้านในอาเซียน เป็นรองแม้กระทั่งเขมร ทำเอาบรรดาผู้เกี่ยวข้องบางคนที่มีใบหน้าอันบอบบาง  ร้องจ๊าก เต้นผาง โวยวาย เจ็บปวด ตื่นตระหนก เสียหน้า ทำยังไงดี รับไม่ได้ ฯลฯ นานัปกิริยาและอาการกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมๆกับระลอกคลื่นแห่งการวิจารณ์  ก็โถมกระหน่ำซ้ำซัดเป็นอาฟเตอร์ช็อค ตามหลัง มิขาดสาย....
..........พูดก็พูดเถอะ เชื่อขนมกินได้เลยว่า ไม่ถึงเดือน เรื่องนี้ ก็จะเงียบ เงียบเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เคยเงียบมา
 ..........เราตื่นเต้น จับฉ่าย กับข่าว เรื่องราว เหตุการณ์ และกระแส แต่มิเคย ได้เรียนรู้อะไรอย่างลึกซึ้งจากกระแสอย่างแท้จริง มิเคยพรากพ้นจากวังวนของเหตุการณ์แบบเดิมๆที่ยึดติดเพียงผิวเปลือก แก่นแกนข้างใน หากลับได้พินิจถึง นี่มิต้องนับกระบวนการใคร่ครวญอย่างมีเหตุมีผล บนวิถีแห่งปัญญา ดังสังคมที่เจริญเป็นกันหรอก นั่นออกจะห่างไกล สำหรับเราอยู่มิน้อย เพราะยังทำความเข้าใจอย่างใคร่ครวญต่อสถานการณ์ต่างๆ ไม่พอ จึงเกิด ทาง ใหม่ ทั้งฉาบฉวย ไร้ราก ยอมเจ็บปวด และสูญเสีย เพียงเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่อยากได้ ต้องการ แม้จะไม่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบท และยอมได้แม้กระทั่งสูญเสียความเป็นตัวตนของตนไป ทาง หรือพฤติการณ์ที่เราเป็นนี้ โบราณ เรียกว่า "ตัดเท้าให้เข้ากับเกือก"

ภาพจากhttp://www.readyshopping.in.th/product/bigfoot-slipper
..........หลายปีก่อน มีนักมวย ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก จากมวยสากลสมัครเล่น เราก็เต้นตาม นำลูกหลานออกเตะกระสอบทรายเหยาะๆ แหยะๆ อยู่พักนึง จากนั้น คนไทยเราก็ชกลม เก็บนวม กลับบ้าน เงียบหาย ตามกัน
...........ต่อมาไม่นาน นักเทนนิสชาย ชื่อดัง เจ้าของท่าไหว้งาม ฝีมือท็อปฟอร์ม ไต่บันไดกีฬาได้ลำดับต้นๆ ของมือวางระดับโลก สื่อประโคมข่าวกันใหญ่ หลายคนชอบใจ คลั่งไคล้เป็นแฟนคลับ คนก็ส่งเสริมลูกหลาน ให้เล่น ให้เป็น นักกีฬาเทนนิส อยู่พักใหญ่ ตีมาตีไปคอร์ดดิน ยังไม่ทันลาย เราทั้งหลาย ก็ห่างหายลาลาน ตามฟอร์ม
...........มินานจากนั้น เทควันโดกีฬาฮิต นักกีฬาประสบความสำเร็จ ได้เหรียญและรางวัล พร้อมเห็นชุดเขาสวย ท่าเตะเขางาม ก็ส่งลูกหลานเข้าเรียน ตามคลินิกที่เปิดสอน ซึ่งผลุดบานดังดอกเห็ด เต็มห้างและซอกเมือง สักพัก ก็ม้วนเสื่อลาลาน ตามเดิม ตามฟอร์ม
...........สองเดือน ก่อนหน้านี้่ มีนักกีฬาแบดมินตันไทยไปแข่งรายการระดับโลก แข่งไปแข่งมา คงเห็นว่า กีฬาแบดฯ เอาดีได้ยาก ก็ไล่ทุบกำปั้นเป็นนักมวย แจกเข่าแจกศอกจนหัวถลอกปอกเปิก เป็นที่น่าอิดหนาระอาใจแก่ชาวโลกยิ่งนัก.... ด่ากันในเฟสอยู่พักนึง ก็ลืมกันไป ตามฟอร์ม ตามเดิม
 .........ไม่ถึงเดือนให้หลัง พลังตบขนไก่สาว ก็ผงาดตีฟาด สร้างชื่อกระหึ่มฟ้า คว้าแชมป์โลกแบดมินตัน มาให้คนไทยได้สำเร็จเป็นครั้งแรก กระแสนักมวยแบดฯ ก่อนหน้า ก็ค่อยๆเงียบจางลงอย่างรู้ตัว พร้อมๆกับการตื่นตัวใน ฟีเวอร์ คนใหม่ แบบเปรี้ยงปร้าง ซึ่งดังสนั่นสะท้านเมือง บรรดา ส.ส. รมต.ต่างแย่งตัวและเชิญเข้ามารับเงินรางวัล แจกกันเป็นแสน ให้กันเป็นล้าน ยังกับเงินเป็นแผ่นกระดาษ เอ 4 เหลือใช้....
............ครับ ถามหน่อยเถอะ เราได้เรียนรู้อะไร จากกระแสเหล่านี้บ้าง สนใจเพียงปลายทางความสำเร็จกระนั้นหรือ เบื้องหลัง ก่อนที่ คนในกระแส เหล่านี้ เขาจะมาถึงตรงจุดนี้ มีใครรู้ และสนใจอย่างใคร่ครวญบ้าง มีสักกี่คนรู้ ว่า เขาต้องผ่านอะไรมา ต้องต่อสู้กัดกรามกับความเจ็บปวด ทุกข์ท้อ มามากต่อมากสักปานใด กระสอบทรายสักกี่ใบเล่า ที่เขาถีบเตะต่อยต่างน้ำตา เฮดการ์ดกี่อันที่รำพันความขมขื่น สนับแขนกี่ข้าง ที่ป่ายป้องความตรมตรอม ไม่ต้องนับความเจ็บป่วยเมื่อยไข้ของสังขารจากการแข่งขัน ไม่ต้องนับโปรแกรมฝึกซ้อมที่เข้มงวด เคร่งครัดและอัดแน่น ในแต่ละวัน ไม่ต้องนับ อะไรต่อมิอะไรอีกหลายประการที่จะรำพึง เราไม่ได้นับ เราไม่ได้คิด เพราะมัวชื่นชมผล แต่ไม่เคยสนใจเหตุ เมื่อเหตุเป็นเช่นนั้น ผลก็ย่อมเป็นเช่นนี้......
............ผลคุณภาพทางการศึกษาไทย ที่ออกมาเช่นนี้ ก็ดังกัน เพราะความใคร่ครวญอย่างเข้าใจใน ทัศนะแม่บท ต่อการจัดการศึกษากับสิ่งที่เป็นกันอยู่ มันบิดเบี้ยว มิได้เป็นเหตุเป็นผลกัน อย่างจริงแท้ ต่อให้มีการจัดลำดับอีกสักพันครั้ง และหากมุมมอง มุมความเข้าใจ ตลอดจนมุมการปฏิบัติ ยังมิได้ตั้งอยู่บนฐานของเหตุและผล ที่ควรจะเป็นแล้ว ผลที่ออกมา ก็ย่อมเป็นเช่นนี้ ทุกทีไป ...
..........ทัศนะแม่บทว่า จัดการศึกษาเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ แล้วการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คืออะไร คือคนไทยเก่ง ดี มีสุข อย่างที่วางกันไว้ นั่นจริงไหม แล้วเราไปถึงตรงจุดนั้นหรือยัง เพราะอะไร มีเหตุปัจจัยอะไรทำให้สำเร็จ หรือล้มเหลว วิธีปฏิบัติ กระบวนการขับเคลื่อน ปัจจัยสนับสนุน พร้อมพอหรือยัง เรากางแผนกลยุทธ์ทางการศึกษา ในสมรภูมิสู้รบกับอวิชชาของคนไทยมากพอแล้วใช่หรือไม่ ที่สำคัญ เราได้ช่วยกันทำ ในทางที่ถูก ผ่านกระบวนวิถีแแห่งปัญญาแล้วหรือยัง ฯลฯ และยังเกรอะกรังด้วยพฤติการณ์ ตัดเท้าเพื่อเกือกงาม อีกกี่มากน้อย
..........ครับนี่ คือข่าว เรื่องราว เหตุการณ์ และกระแสที่ควรนำมาขบคิด ตรึกตรอง มองหาทางแก้ทางพัฒนาร่วมกัน มากกว่าการตื่นเต้น วางเฉย หรือลนลานกับ การณ์ ที่เกิดขึ้น เพราะนั่นเท่ากับเกาะติดเพียงความสูงหรือต่ำ ขึ้นหรือลง ของผิวคลื่นเท่านั้น หาได้หยั่งรู้ ลึกตื้น สะอาด ใส จืด เค็มของคลื่นน้ำเลแห่งความจริงที่โถมซัดสังคมไทยเราไม่ เลิกว่ายตามกระแส เห่อหลงตามอย่างเขา ที่เขาเป็น แต่มิได้ตรองตรึกถึงความเหมาะสม กับตัวตนของไทยเรา เสียที ....
 ...........ผมเองไม่ใช่ผู้ช่ำชองเชี่ยวชาญด้านการศึกษาอะไรหรอก มิได้มีเจตนาสอนบอกให้ใครด้วยซ้ำ และหากใครไม่เป็น เช่นว่า ก็ต้องขออภัย  ภูมิรู้ตัวผมเองก็ดุจหางอึ่ง หากแต่เห็นและตระหนักบางอย่าง อย่างน้อยก็รู้ว่า....เรามีเท้าที่สวยงาม เท้าที่งามนี้ มีไว้สำหรับหยุดคิดและเดินต่อเพื่อถึงจุดหมาย และเลือกตัดเกือก ให้เหมาะงามกับเท้าเราเช่นกัน....เช่นนั้นเอง


           พิณ คืนเพ็ญ
         บ้านแม่สะเรียง
       8 กันยายน 2556