วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ลดทุกข์สุขเพิ่ม




..........ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าหากได้เห็น ได้ยิน ได้ชม หรือได้สัมผัสอะไรต่อมิอะไรที่ไม่ต้องการ หรือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกใจ คนเราจะมีปฏิกิริยาโต้กลับอย่างทันควัน ผ่านการแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ตอบถ้อยกระทงความอย่างเสียมิได้ บ้างแสดงกิริยากระโชกโฮกฮาก บ้างออกอาการหงุดหงิด บ้างกระฟัดกระเฟียด ฟาดงวงฟาดงา บ้างก็สะสมไว้เป็นระเบิดเวลา รอวันประทุดุเดือด ฯลฯ อากัปกิริยาเช่นนี้ มักเห็นได้อยู่เป็นประจำในแต่ละคน แต่จะมากน้อย หรือเข้มข้น รุนแรง บางเบาเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับภูมิธรรมของผู้นั้นเป็นสำคัญ
.............ในแต่ละวัน เรามักหนีไม่พ้นกับปัญหาวุ่นวายที่ได้พบพานอยู่ 3 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่ ปัญหาของตนเอง คนอื่น และคนอื่นที่เราเข้าไปพัวพันกับเขา มันจึงเกิดการปะทะสังสรรค์กันในระดับหนึ่ง ถ้าไม่มีหลักคิด เมื่อเจอปัญหาหรือสิ่งมากระทบกับตนเอง ก็มักจะจบลงด้วยความโกรธ เกลียด เครียด เจ็บ ป่วยและ ตายอย่างทรมานในที่สุด ผู้มีปัญญาจะยังปล่อยให้ตนเอง จ่อมจมกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้อยู่หรอกหรือ?
...........เป็นคำถามที่เฝ้าถามดูอาการตนเอง เกือบทุกวี่วัน แต่ยังไม่สามารถหลุดพ้นหรือลดรอนให้ปัญหาจางหายไปได้ ครุ่นคิดอย่างเป็นจริงเป็นจังก็สรุปบทเรียนว่า แท้จริงแล้ว เรามีทุกข์ 2 ทาง หนึ่งคือทุกข์ทางกาย สองคือ ทุกข์ทางใจ
........ทุกข์ ทางกาย นั้น ก็เรื่องการอยู่ เดิน กิน นอน ถ้าเกินขาดก็เสียสมดุล เกิดทุกข์
........ทุกข์ ทางใจ นั้น ก็เช่นกัน แต่ซับซ้อนยิ่งกว่า เพราะมันเกิดจากใจของมันเองก็ได้ หรือสืบเนื่องมาจากทุกข์ทางกายก็ได้ สายนี้ยากและยุ่งในการแก้ไข และเป็นเหตุใหญ่ที่นำไปสู่ทุกข์ระทม
......อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทุกข์กาย หรือทุกข์ใจนั้น ล้วนมีแหล่งกำเนิดต่างๆ ที่มาสัมผัสกับช่องทางรับรู้ต่างๆ ของเรา อันได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจทั้งสิ้น
ทุกข์ทุกครั้ง สำคัญที่ ใจ ของเราเข้าไปทำการโต้ตอบ ตอกย้ำ บีบรัด ยึดเหนี่ยว จนมันเสียดุลยภาพไป มันจึงทุกข์
......วิธีแปลงทุกข์ให้สุขนั้น จึงควรทำดังนี้
1.รู้ทันแหล่งกำเนิดทุกข์: รู้ว่าอยู่ในสิ่งแวดล้อมเช่นนั้น เหตุเช่นนั้น จะนำมาซึ่งทุกข์แน่ๆ จงระวัง
2.รู้ทันช่องทางรับรู้ ทั้ง 6 : พยายามปิดประตูทั้ง 6 ไม่ให้สัมผัสแหล่งกำเนิดทุกข์นั้นๆ
3.สุดท้าย สำคัญที่สุด คือ รู้ทัน ใจ พยายามอย่าเอาใจไปรับกับสิ่งที่มา สัมผัส เมื่อใจไม่ได้รับ หรือสัมผัสกับสิ่งใด ตั้งอยู่ในความนิ่ง ก็ไม่สั่นไหว เมื่อไม่สั่นไหวมันก็สงบ เมื่อสงบ ก็จะพบความสุข ซึ่งเป็นบทเรียนที่มีค่ายิ่ง ที่ครุ่นคิด ทบทวน ไปมาอยู่สุดวัน จนปวดหัวตึ๊บๆ เมื่อรู้แล้ว จะพยายามปฏิบัติ คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางการบำบัดทุกข์ หรือลดทุกข์สร้างสุขกับตนเองได้..........


ขอบคุณตนเอง จากใจจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น