วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

ส่งนกน้อย บินไกล สู่ทางงาม


มอบแด่ศิษย์รัก ม. 3/2555
     ครู....
ไม่มีเพลง บรรเลงใด จักให้เจ้า
ไม่มีข้าว ไม่มีแกง จัดแต่งให้
ไม่มีน้ำ อมฤต  ชื่นฉ่ำใด
ไม่มีทุน หนุนใด จักให้ครอง 

มีเพียงมือ ซาสาก จับชอล์กพลิ้ว
มีเพียงนิ้ว เหี่ยวย่น ปนหม่นหมอง
มีเพียงนัยน์ ตาเฒ่า เฝ้าแลมอง
เจ้าก้าวเดิน เพลินท่อง ช่องงามใจ 

จงโบยบิน ว่ายปีก สู่ฟ้ากว้าง
สู่ทิศทาง สู่ฝัน สู่วันใส
มั่นใจนะ ว่าปลายฟ้า ผ่องอำไพ
นกน้อยเจ้า จงบินไป สู่รังงาม
นกน้อยเจ้า บินสู่ชัย  สู่ ใจงาม 

            ขอให้ศิษย์รัก ทุกคน จงหมั่น กล่อมเกลา บ่มเบาะ พัฒนา และ เรียนรู้ตนอยู่เสมอ
..... การศึกษาไม่ใช่แค่ มอสาม มอหก ปริญญา ตรี โท เอก....
.....ไม่ใช่แค่ ตำรา กระดานดำ อินเตอร์เน็ต ห้างสรรพสินค้า โบสถ์ วัด หรือ ผับ บาร์.....
......แต่ ทุก ๆ สิ่ง สามารถทำให้เป็นการศึกษาได้
......ทุก ๆ สิ่ง มีคุณค่า มีภาษาของความงดงาม อยู่ในตัวของมันเองเสมอ
......จงฝึกที่จะเห็น เข้าใจ เรียนรู้ และอยู่ร่วมกับสรรพสิ่ง บนพื้นฐานความจริง ความงาม และความดี.....
......ขอให้ศิษย์ดำรงตนอย่างมีสติ มีปัญญา และก้าวสู่ทางงาม ทุกคนครับ...

                ด้วยรักและห่วงใย
                 ครูพิณ คืนเพ็ญ
                25 มีนาคม 2556
     ลานกว้าง โรงเรียนบ้านแม่ลิด

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

เหนื่อย

ในห้วงยาม บอบบาง ของชีวิต
ยามที่จิต อ่อนล้า ฝ่าสู่ฝัน
ยามที่ดวง อาทิตย์ แห่งชีวัน
มืดตีบตัน ทางเท้า ก้าวสู่ชัย

นอนเดียวดาย ก่ายหมอก หยอกน้ำค้าง
ฟังบทเพลง เวิ้งว้าง จากไศล
มองหมู่หมอก หยอกล้อ เคล้าคลอไพร
อ้อไสว เอนดอกอ่อน อ้อนจันทร์นวล

จะทุกข์ขื่น ขืนขม กี่ลมเล้า
จะช้ำชอก ตอกย้ำเล่า กี่ลมหวน
จะตรมตรอก ยอกใจ กี่ไห้ครวญ
จะโหยหวน ยวลย่ำ กี่น้ำตา

จักนานไหม ราตรี นี้จักจบ
จักพานพบ แสงสว่าง ดังใฝ่หา
จักแย้มยิ้ม อิ่มสุข ทุกคราวครา
สุขบนทุกข์ อาบน้ำตา ข้าฯรอเยือน
 

        พิณ คืนเพ็ญ
           เหนื่อย
เช้าบ่าย กลางมีนา แม่ลิด






วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

ท่านตั๊กม่อ

 










สามตั๊กม่อ ผู้ก่อการ งานเอื้อราษฎร์
ใช้ศิลป์ศาสตร์ วาดงาม ตามดีสม
 เพาะหน่อเนื้อ เชื้อพันธุ์ดี แก่สังคม
สมควรชม ชื่นชู ว่าครูดี 

ครูดี ดีที่กล้า ปลดครุย ลงลุยน่อง
จุดไฟส่อง ปัญญาคน บนวิถี
ให้คิดได้ ทำได้ ประโยชน์มี
หาใช่ที่ ใส่สูทงาม แล้วทรามใน   

สามตั๊กม่อ จึงเป็น เช่นตั๊กม่อ
เป็นกงล้อ ขับเคลื่อนเมือง แห่งสมัย
สั่งสอนศิษย์ รู้ค่า ราคา "ไท"
งานยิ่งใหญ่ นั่งใน ใจชาวชน.....

      สามเดือนผ่าน สรรสาระสาละวิน

                พิณ คืนเพ็ญ
    

ธรรมะเช้า ธรรมชาติ

เช้าตื่น ชื่นเช้า เย้าเยือกหมอก
รอสาย แดดออก อาบหมอกหนาว
ไม้ป่า ไหวใบ ต้องลมพราว
วับวาว ดุจใจ เจียระไน งาม

แสงส่อง สาดหล้า งามยิ่ง
งามจริง พริ้งพราว วาวหวาม
เปิดอก ถึงใน   เข้าใจ งาม
จิตจด จ้องตาม จับ ธรรม

ความจริง มีเพียง แค่นี้
รู้ดี   รู้ทัน หมั่นถาม
รู้ทบ รู้ทวน ครวญตาม
รู้งาม ในทราม  ถึงธรรม
รู้งาม ในทราม ถึงธรรม (ชาติ)

    ยามเช้า เยือกหนาว
  เด็กน้อยทยอยมาเรียน
         พิณ คืนเพ็ญ
   แม่ลิด 13 มีนาคม 56

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

คำสอนหลวงปู่

"อดได้  ทนได้   ช้าได้   ดีได้"

หลวงปู่ทองฯวัดพระธาตุจอมทองฯ

ดีเอ็นเอแห่งความผูกพัน


          นับเป็นเวลาสองปีเต็ม เห็นจะได้ ที่ตนเองล้มลุก คลุกฝุ่นของชีวิต มอมแมมเปื้อนเลอะหมอกควันแห่งปัญหาที่โถมถา เป็นสองปีที่เหนื่อยล้า ทดท้อ จากหลุมบ่อที่พบเจอ เป็นสองปีที่ทำให้เข้าใจโลกธรรมแปด ชัดเจนยิ่งนัก   ท่ามกลางก้าวย่างของเวลาอันเนิ่นช้า ได้บรรจงตวัดคมมีดแหวกอุราอย่างประณีต ส่งผลให้เจ็บปวด รวดร้าว ยาวนาน จนยากจะลืมเลือน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางม่านสีเทาสลัว ได้ทำให้ตัวผมพลัดหลงอะไรบางสิ่ง ขณะเดียวกัน ก็ทำให้พานพบ อะไรบางอย่าง บางอย่างที่แสนงดงาม และจดจำ มิมีวันเลือน....

          วันว่างจากงานที่เหนื่อยวุ่น ก็พอมีพื้นที่เล็กๆ ให้ได้อยู่กับลูกสาวเป็นคราวครั้ง แต่ทุกๆครั้งที่ได้อยู่ร่วมกิจกรรมกัน ก็พยายามทุกอย่าง ที่จะให้เวลาสั้นๆนั้น ควรค่าแก่การจดจำอันยาวนาน ลูกชอบเล่นสนุกตามประสา ชอบให้พ่อพากินขนมเซเว่นฯ ชอบขี่คอ ขี่ม้า ชอบฟังนิทาน แม้นิทานนั้น จะเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอก็ยินดีที่ได้ฟัง เที่ยว กิน เล่น แล้ว ยังต้องใช้กลยุทธ์ล่อหลอกให้กินข้าว อาบน้ำ รวมถึงต้องหาวิธีขับกล่อมให้ยอมนอน ซึ่งเป็นงานใหญ่มาก สำหรับหมูน้อยคนดีของผม ทุกอย่างที่พูดมา ผู้แบกภาระทั้งหมดคือยายและแม่ของเขา ส่วนผมเทียบได้เพียงฝุ่นดินในวังทรายเท่านั้นเอง ... แม้จะมีเวลาเป็นช่วงสั้นๆ แต่ความสุขมักยาวนานทุกทีที่ได้ระลึกถึง

      ออกตัวว่า ตัวเองอาจจะไม่ใช่คนดีพร้อมเสียทุกอย่าง บางครั้งก็หลงทางไปบ้าง ตามวิถี แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะขุดหลุมกลบฝังความรู้สึกดีๆ ไว้สวนหลังบ้าน ดังนั้น สิ่งใดดีงาม ก็ต้องสานถักให้งดงามยิ่งๆขึ้น เช่น วันว่างกับลูกสาว หากมีเวลา ก็มักเต็มที่เสมอ โดยเฉพาะการขับกล่อมให้ลูกนอน เป็นอะไรที่ผมชอบมากที่สุด เพราะได้พูด คุย เล่น หยอกสนุกสนานและกล่อมเขาให้หลับฝัน หมูน้อยของผมชอบมากเป็นพิเศษ เวลาพ่อเอามือลูบหัวเบาๆ พร้อมกล่อม แล้วหอมแก้มฟอด ๆ ลูกสาวจะหลับตายิ้ม อย่างมีความสุขทุกครั้ง ผมทำเช่นนี้เรื่อยมา อยู่มาวันหนึ่ง ผมเพลียมาก ชวนลูกนอน คุยกันไป คุยกันมา รู้ตัวว่า เผลอหลับก่อนลูก ขณะกำลังเคลิ้มๆ มีมือจ้ำม่ำน้อยๆ ค่อยๆ บรรจงลูบหน้าผากพ่อเบาๆ สักพักได้ยินเสียงหอมแก้มดังฟอด เบาๆ เช่นกัน  ครั้งแรก นึกว่าฝัน หลายต่อหลายครั้ง จึงรู้ได้ว่า นี่เรื่องจริง จริงที่คนที่หอมคือก้อนชีวิตของผม คนที่บรรจงค่อยๆลูบแผ่วเบาบนผมเผ้า ก็คือลูกสาว คล้ายๆกับที่เราได้ปฏิบัติต่อเขา น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก  ถ้าไม่มีลูกเสียเอง ก็คงไม่รู้ ถ้าไม่ใช่เด็กสามขวบก็คงมิสงสัย

      ทั้งหมดคือความจริงจากใจที่ลูกผู้สืบเนื้อเชื้อสาย ได้แสดงออกต่อพ่อ หลายคนอาจนินทาว่าพ่อเขาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สำหรับคนที่เป็นลูก อย่างหมูน้อยของผมแล้ว เธอรักและภักดีต่อพ่อของเธอเสมอ  คำนินทาตามโลกธรรมแปด มิได้ฝังกลบความรู้สึกดีๆที่มีต่อพ่อของเธอได้ เธอจึงได้แสดงออกมาด้วยความบริสุทธิ์ ใสและงดงาม ช่างเป็นอะไรบางอย่างที่ผมได้พบเจอ ในรอยเท้าของวันเวลา  เป็นอะไรบางอย่างที่จะจดจำจนลมสุดท้ายแห่งชีวิต
      
         ท่ามกลางวันเวลาที่เดินไปอย่างมิยั้งหยุด หลายอย่างเปลี่ยนผัน ตามเงื่อนไข ปัจจัย แต่สำหรับความรักความผูกพันระหว่างพ่อแม่ที่มีต่อลูก หรือระหว่างลูกที่มีต่อพ่อแม่แล้ว ไม่ได้หล่นหายไปตามกาลแต่อย่างใด นับวันแต่จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ความผูกพันเช่นนี้ ได้ถ่ายทอดข้ามผ่านเงื่อนไขของวันเวลา เพราะนี่ คือ ดีเอ็นเอแห่งความผูกพันของมวลมนุษยชาติ ที่ถูกใส่ลงไปในดวงจิต ตะลอนข้ามภพข้ามชาติเสียแล้ว
       

   พิณ คืนเพ็ญ
 แม่ลิด ต้นมีนา