วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

ดีเอ็นเอแห่งความผูกพัน


          นับเป็นเวลาสองปีเต็ม เห็นจะได้ ที่ตนเองล้มลุก คลุกฝุ่นของชีวิต มอมแมมเปื้อนเลอะหมอกควันแห่งปัญหาที่โถมถา เป็นสองปีที่เหนื่อยล้า ทดท้อ จากหลุมบ่อที่พบเจอ เป็นสองปีที่ทำให้เข้าใจโลกธรรมแปด ชัดเจนยิ่งนัก   ท่ามกลางก้าวย่างของเวลาอันเนิ่นช้า ได้บรรจงตวัดคมมีดแหวกอุราอย่างประณีต ส่งผลให้เจ็บปวด รวดร้าว ยาวนาน จนยากจะลืมเลือน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางม่านสีเทาสลัว ได้ทำให้ตัวผมพลัดหลงอะไรบางสิ่ง ขณะเดียวกัน ก็ทำให้พานพบ อะไรบางอย่าง บางอย่างที่แสนงดงาม และจดจำ มิมีวันเลือน....

          วันว่างจากงานที่เหนื่อยวุ่น ก็พอมีพื้นที่เล็กๆ ให้ได้อยู่กับลูกสาวเป็นคราวครั้ง แต่ทุกๆครั้งที่ได้อยู่ร่วมกิจกรรมกัน ก็พยายามทุกอย่าง ที่จะให้เวลาสั้นๆนั้น ควรค่าแก่การจดจำอันยาวนาน ลูกชอบเล่นสนุกตามประสา ชอบให้พ่อพากินขนมเซเว่นฯ ชอบขี่คอ ขี่ม้า ชอบฟังนิทาน แม้นิทานนั้น จะเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอก็ยินดีที่ได้ฟัง เที่ยว กิน เล่น แล้ว ยังต้องใช้กลยุทธ์ล่อหลอกให้กินข้าว อาบน้ำ รวมถึงต้องหาวิธีขับกล่อมให้ยอมนอน ซึ่งเป็นงานใหญ่มาก สำหรับหมูน้อยคนดีของผม ทุกอย่างที่พูดมา ผู้แบกภาระทั้งหมดคือยายและแม่ของเขา ส่วนผมเทียบได้เพียงฝุ่นดินในวังทรายเท่านั้นเอง ... แม้จะมีเวลาเป็นช่วงสั้นๆ แต่ความสุขมักยาวนานทุกทีที่ได้ระลึกถึง

      ออกตัวว่า ตัวเองอาจจะไม่ใช่คนดีพร้อมเสียทุกอย่าง บางครั้งก็หลงทางไปบ้าง ตามวิถี แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะขุดหลุมกลบฝังความรู้สึกดีๆ ไว้สวนหลังบ้าน ดังนั้น สิ่งใดดีงาม ก็ต้องสานถักให้งดงามยิ่งๆขึ้น เช่น วันว่างกับลูกสาว หากมีเวลา ก็มักเต็มที่เสมอ โดยเฉพาะการขับกล่อมให้ลูกนอน เป็นอะไรที่ผมชอบมากที่สุด เพราะได้พูด คุย เล่น หยอกสนุกสนานและกล่อมเขาให้หลับฝัน หมูน้อยของผมชอบมากเป็นพิเศษ เวลาพ่อเอามือลูบหัวเบาๆ พร้อมกล่อม แล้วหอมแก้มฟอด ๆ ลูกสาวจะหลับตายิ้ม อย่างมีความสุขทุกครั้ง ผมทำเช่นนี้เรื่อยมา อยู่มาวันหนึ่ง ผมเพลียมาก ชวนลูกนอน คุยกันไป คุยกันมา รู้ตัวว่า เผลอหลับก่อนลูก ขณะกำลังเคลิ้มๆ มีมือจ้ำม่ำน้อยๆ ค่อยๆ บรรจงลูบหน้าผากพ่อเบาๆ สักพักได้ยินเสียงหอมแก้มดังฟอด เบาๆ เช่นกัน  ครั้งแรก นึกว่าฝัน หลายต่อหลายครั้ง จึงรู้ได้ว่า นี่เรื่องจริง จริงที่คนที่หอมคือก้อนชีวิตของผม คนที่บรรจงค่อยๆลูบแผ่วเบาบนผมเผ้า ก็คือลูกสาว คล้ายๆกับที่เราได้ปฏิบัติต่อเขา น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก  ถ้าไม่มีลูกเสียเอง ก็คงไม่รู้ ถ้าไม่ใช่เด็กสามขวบก็คงมิสงสัย

      ทั้งหมดคือความจริงจากใจที่ลูกผู้สืบเนื้อเชื้อสาย ได้แสดงออกต่อพ่อ หลายคนอาจนินทาว่าพ่อเขาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สำหรับคนที่เป็นลูก อย่างหมูน้อยของผมแล้ว เธอรักและภักดีต่อพ่อของเธอเสมอ  คำนินทาตามโลกธรรมแปด มิได้ฝังกลบความรู้สึกดีๆที่มีต่อพ่อของเธอได้ เธอจึงได้แสดงออกมาด้วยความบริสุทธิ์ ใสและงดงาม ช่างเป็นอะไรบางอย่างที่ผมได้พบเจอ ในรอยเท้าของวันเวลา  เป็นอะไรบางอย่างที่จะจดจำจนลมสุดท้ายแห่งชีวิต
      
         ท่ามกลางวันเวลาที่เดินไปอย่างมิยั้งหยุด หลายอย่างเปลี่ยนผัน ตามเงื่อนไข ปัจจัย แต่สำหรับความรักความผูกพันระหว่างพ่อแม่ที่มีต่อลูก หรือระหว่างลูกที่มีต่อพ่อแม่แล้ว ไม่ได้หล่นหายไปตามกาลแต่อย่างใด นับวันแต่จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ความผูกพันเช่นนี้ ได้ถ่ายทอดข้ามผ่านเงื่อนไขของวันเวลา เพราะนี่ คือ ดีเอ็นเอแห่งความผูกพันของมวลมนุษยชาติ ที่ถูกใส่ลงไปในดวงจิต ตะลอนข้ามภพข้ามชาติเสียแล้ว
       

   พิณ คืนเพ็ญ
 แม่ลิด ต้นมีนา
      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น