วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เดินทางภายใน

การเดินทาง
ทำให้คนเราได้เรียนรู้ตนเองและผู้อื่น
จากโลกภายนอกที่พานพบ 
เดิมที อาจดุ่มเดิน คว้าค้น จากภายนอก เพื่อให้เห็น รู้ ตามสภาพจริง เช่นนั้น เช่นนี้ 
แต่แท้ท้ายสุดแล้ว
เราท่านต่างค้นหาคำตอบอะไรบางอย่างจากโลกภายในของตนเอง
ซึ่งเป็นต้นธารของทุกสิ่ง
ฉะนั้นแล้ว การเดินทางได้ไกล
จึงไม่ได้อยู่ที่ระยะทางที่ได้ไป
แต่หากอยู่ที่ระยะทางของโลกภายในที่ได้ถึงต่างหาก...




พิณ คืนเพ็ญ
1 กรกฎาคม 2556

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทาง

สายน้ำ มีทางของน้ำ
หญ้า มีทางของหญ้า
รถยนต์ มีทางของรถรา
ไฟฟ้า ก็มีทางของไฟ
สรรพสิ่ง มีทางของตน
พิจบางครั้ง อาจต่าง
พิจบางคราว อาจคล้ายเหมือน
แท้ต่างมี ต้นสาย ปลายทาง มิต่างกัน
 

พิณ คืนเพ็ญ
       ทาง
บ้านพะมะลอ
14 มิถุนายน 2556

แง่งามยามมอง

แม้เก่าโซโทรมพังเพ
เอียงเซตามปัจจัยเงื่อนไข
ร้างไร้ห่างคนพักใน
ใช่ไร้แง่งามยามมอง

     พิณ คืนเพ็ญ



 

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ผลสนทรียา

ยามเช้าเย็นสดชื่น
ฟ้าครึ้มครื้นด้วยมวลเมฆฝน
น้ำไหลจากห้วย ลุ่มดอยเวียนวน
เสียงจ้อก จ้อก อ่อนโยน แผ่วไล้กรวดทราย
ข้าวไร่ ก็แตกกอเขียวแล้ว
กอฟักแก้ว ก็แตกเครือกระจาย
พากันเติบโต งดงามนะมวลหมู่ไม้
ค่อยค่อยผลิผลสนทรียาให้โลกยล....นะ

เช้าสดชื่น
หายใจเต็มปอด
สูดฟอดฟองฝันแห่งธรรมชาติบำรุงใจ

        แม่ลิด
      พิณ คืนเพ็ญ

      10 มิ.ย. 56

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

นกนาคอย

นากว้างเงียบเสียง ห่างไกลผู้คน
มีเพียงนกสองสามตัว ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
จับบนคันดิน คล้ายรอคอยอะไรบางอย่าง

ชีวิตทุ่งยามนี้ ช่างอ้างว้างชอบกล
แต่ในอีกไม่กี่บัดดล
แดดจะมา ฝนอาจจะมี นาอึงมี่ด้วยเสียงคน
คนจะเต็มนาร้างๆ นี้แล้ว
คนจะมากันแล้ว
คนจะมาทำนา......
หรือว่า นกรอคอย ........?
                               ................

ทุ่งนาบ้านพะมะลอ
    พิณ คืนเพ็ญ

ละครนก

 
 
ทุ่งนาสงัดเสียง
อ้างว้างห่างไกลบ้านเรือนและผู้คน
มีเพียงนกเหงาๆ หลงทาง สองสามตัว
จับเจ่าละเมอ รำพึงถึงเส้นทางหลุดปีกฝัน
บนแผ่นคากระท่อมนา เหงาเปลี่ยว

ควันไฟเหนือคุ้งน้ำ
ลอยสายพวยคลอดุจฉากหลัง
เพิ่มความชอบธรรมให้ เหงา เศร้า ยัดเยียดบทขมขื่น แก่นกอ้างว้างพวกนั้น ได้อย่างถนัดถนี่และเจ็บปวด

ทุ่งนากว้างใหญ่ยามนี้
จึงถูกท่วงทำนองแห่งความเปลี่ยวเศร้า คลุมห่มบรรเลง.....

"อือ นกน้อยเอย ...เจ้าเล่นบทกินใจข้าแท้"
"นกน้อยเอ๋ย ผืนนาแห่งละครของพวกเจ้า ช่างถางถาก และเพิ่มพื้นที่อ้างว้าง เหงา ในนาแห่งข้า ได้อย่างพิลึกพิลั่น...อย่างน้อย หลังชมละครพวกเจ้าจบ ข้ามีนาเพิ่มอีก หลายสิบไร่..โดยมิรู้ตัว"

โอวววววว.....นกเหงาๆ พวกนั้น....

พิณ คืนเพ็ญ

ต้นข้าวแห่งเธอ


เช้าตื่น ชื่นเช้า  รีบไปทุ่งนา
สาบกลิ่นข้าวกล้า ต้องลมพา มาแต่ไกล
หอมอ่อนอุ่น ละมุนกรุ่นซึ้ง ถึงข้างใน
แลก้านใบ..เอนอ้อน คล้ายรอนคลื่น ระริกพลิ้วเล่นลม
จากกล้าเล็กๆ จนแตกกอเขียว
จากกอเขียว ๆ เติบโต เบ่งใบ
ออกรวงเมล็ดใหญ่ๆ .... เหลืองงาม
จนคนนา มาถึง ดึงโน้มเคียวเกี่ยว
ข้าวรวงเหลืองเขียว ก็กลายเป็นซัง

นาน....แม้นกกระสา ที่เคยเยี่ยมทุ่ง ก็บินหนีจาก
อีฮวกต้นฝน ได้กลายเป็นกบใหญ่
แต่...เธอก็ยังร่ายใบ เอนอ่อนอ้อนเล่นลม
....อยู่เช่นนั้น...มิวาย

บ่เคยเห็น  อาคันตุกะแห่งวายุ หมู่ใด
จะพัดพาถอนโคลนรากใบ จากจุดยืนของเธอได้

ต้นข้าวชีวิตแห่งเธอ ก็เช่นกัน
แม้กาลนับนาน
ก็มิเห็น ลมมรสุมหมู่ใด
จะพัดพา ถอนโคลนรากใบแห่งหัวใจและจิตวิญญาณแห่ง เธอ ได้ เช่นกัน

    ....ฉันจึงศรัทธา....
  ต้นข้าวแห่งท้องทุ่งเหล่านั้น

ทุ่งนาบ้านพะมะลอ
     แม่สะเรียง
    พิณ คืนเพ็ญ
      9 มิถุนา 56

วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ตาในสวรรค์

ภาพภู สูงซ้อน สลอนสลับ
มองระยับ ระยิบแดด แผดลำแสง
แบบ เวลา มุมกล้อง ที่ส่องแยง

คือคำแพง แห่งคุณค่า ตาในสวรรค์
 

แรงดลใจจาก บทกวีภูสูงแดดสวย ...ของครูศิวกานท์ ปทุมสูติ
ในคราวเยือนแม่สะเรียง แม่ลาน้อย   ภาพนี้ ผมเป็นคนถ่ายเอง
แอบยิ้มภูมิใจเล็กๆ ครับ
    พิณ คืนเพ็ญ
  2 มิถุนายน 56